เมนู

ความหมายของคำว่า โสมนัสสินทรีย์



บุคคลชื่อว่า สุมนะ เพราะมีใจงาม เพราะสัมปโยคะด้วยปีติและ
โสมนัส ความเป็นแห่งบุคคลผู้มีใจงาม ชื่อว่า โสมนัสสะ โสมนัสสะนั้น
ชื่อว่า อินทรีย์ เพราะครองความเป็นใหญ่กว่าธรรมอื่นในลักษณะแห่งความ
ยินดี. โสมนัสสะนั่นแหละเป็นอินทรีย์ ชื่อว่า โสมนัสสินทรีย์ โสมนัส-
สินทรีย์นี้เป็นไวพจน์ของเวทนาตามที่กล่าวแล้วในหนหลังแล.

ความหมายของชีวิตินทรีย์



ธรรมที่ชื่อว่า ชีวิต เพราะเป็นเหตุให้ธรรมที่สัมปยุตด้วยชีวิตินทรีย์
นั้นเป็นอยู่. ชีวิตนั้นชื่อว่า อินทรีย์ เพราะครองความเป็นใหญ่กว่าธรรมอื่น
ในลักษณะแห่งการตามรักษา. ชีวิตนั่นแหละเป็นอินทรีย์ ชื่อว่า ชีวิตินทรีย์
ชีวิตินทรีย์นั้น เป็นอธิบดีในความเป็นไปและสืบต่อ. ก็เมื่อว่าโดยลักษณะ
เป็นต้น ชีวิตินทรีย์มีการตามรักษาธรรมที่เกิดแล้วโดยไม่เว้นตนเป็นลักษณะ
มีการเป็นไปแห่งสัมปยุตธรรมเหล่านั้นเป็นรส มีการดำรงอยู่แห่งสัมปยุตต-
ธรรมเหล่านั้นนั่นแหละเป็นปัจจุปัฏฐาน มีธรรม (คือ เวทนา สัญญา
วิญญาณ) ที่เป็นอยู่เป็นปทัฏฐานะ เมื่อการทรงไว้มีการตามรักษาเป็นต้น
แม้มีอยู่ ชีวิตินทรีย์ก็ย่อมตามรักษาธรรมในขณะที่มีอยู่เท่านั้น เหมือนน้ำ
ตามรักษาอยู่ซึ่งดอกอุบลเป็นต้น และย่อมรักษาธรรมทั้งหลายอันเกิดขึ้นเพราะ
ปัจจัยตามความเป็นของตนดุจแม่นมเลี้ยงดูกุมาร และเป็นไปโดยสัมพันธ์กับ
ธรรมที่ตนให้เป็นไปดุจต้นหนยังเรือให้แล่นไป ชีวิตินทรีย์นั้นให้เป็นไปเหนือ
ภังคขณะไม่ได้ เพราะความที่ตนและธรรมที่ตนให้เป็นไปไม่มี ย่อมไม่ตั้งอยู่

ในภังคขณะเพราะตนเองก็ต้องแตกดับ ดุจไส้น้ำมันสิ้นไปอยู่ เปลวประทีป
ก็ดับไป บัณฑิตไม่พึงเห็นชีวิตินทรีย์ว่าเว้นจากอานุภาพแห่งการรักษา การ
ให้เป็นไป การดำรงไว้เพราะชีวิตินทรีย์ยังอานุภาพนั้น ๆให้สำเร็จ ดังนี้.

อธิบายว่าด้วยสัมมาทิฏฐิเป็นต้น



พึงทราบวินิจฉัยในคำว่า สัมมาทิฏฐิ เป็นต้น องค์มรรคที่ชื่อว่า
สัมมาทิฏฐิ เพราะอรรถว่าการเห็น. ชื่อว่า สัมมาสังกัปปะ เพราะอรรถ
ว่าการยกขึ้น. ชื่อว่า สัมมาวายามะ เพราะอรรถว่าการประคอง. ชื่อว่า
สัมมาสติ เพราะอรรถว่าการอุปการะ. ชื่อว่า สัมมาสมาธิ เพราะอรรถว่า
การไม่ฟุ้งซ่าน. ก็ว่าโดยวจนัตถะ คือความหมายของพระบาลี ชื่อว่า
สัมมาทิฏฐิ เพราะเห็นชอบหรือว่าเป็นเหตุให้เห็นชอบ. ชื่อว่า สัมมา-
สังกัปปะ
เพราะดำริชอบหรือว่าเป็นเหตุให้ดำริชอบ. ชื่อว่า สัมมาวายามะ
เพราะพยายามชอบหรือว่าเป็นเหตุให้พยายามชอบ. ชื่อว่า สัมมาสติ เพราะ
ระลึกชอบหรือว่าเป็นเหตุให้ระลึกชอบ. ชื่อว่า สัมมาสติ เพราะตั้งมั่น
โดยชอบหรือว่าเป็นเหตุให้ตั้งมั่นโดยชอบ. อีกอย่างหนึ่ง พึงทราบวจนัตถะ
ขององค์มรรคนั้นโดยนัยแม้นี้ว่า ทิฏฐิอันบัณฑิตสรรเสริญแล้วเป็นทิฏฐิดี
ชื่อว่า สัมมาทิฏฐิ. ส่วนธรรมมีลักษณะเป็นต้น ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้วใน
หนหลังนั่นแหละ.

อธิบายว่าด้วยศรัทธาพละเป็นต้น



ธรรมมีศรัทธาพละเป็นต้น มีเนื้อความตามกล่าวไว้แม้ในศรัทธาพละ
นั่นแหละ แต่ว่าพึงทราบว่าพละเพราะอรรถว่าไม่หวั่นไหว. บรรดาธรรม
เหล่านั้น ธรรมที่ชื่อว่า ศรัทธาพละ เพราะไม่หวั่นไหวไปในความเป็น
ผู้ไม่มีศรัทธา ชื่อว่า วิริยพละ เพราะไม่หวั่นไหวไปในความเกียจคร้าน.